นักแสดงสาว เป้ย ปานวาด ได้ตัดสินใจยุติชีวิตคู่กับสามี ป๊อป นิธิ หลังเผชิญปัญหาสะสมมายาวนาน ล่าสุด เป้ยเปิดใจในรายการ “เมาท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม” ว่าตอนนี้รู้สึกแฮปปี้และโล่งใจมากขึ้นล่าสุด เป้ย ได้มานั่งเปิดใจในรายการ เมาท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม ทางช่อง 3 เล่าวีรกรรม ปะ ฉะ ดะ และลุย ขณะกำลังตั้งท้อง หลังจับได้ว่า ป๊อป นิธิ สามีมีผู้หญิงคนอื่น โดยพุ่งตัวไปหาผู้หญิงคนนั้นทันทีที่คอนโด และจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัดสินใจจบ ก็คือ ลูกชายคนโต ที่ลุกมาเห็นทะเลาะกันกับสามีตอนตี 4
โดย เป้ย เล่าว่า เราคบกับสามีไม่นาน และเขามาขอหมั้นไว้ก่อน ตอนนั้นวัยเราก็ได้ เพราะคิดไว้ว่าเราอยากมีครอบครัวตอนอายุ 30 และเขาเข้ามาพอดี คิดว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา เราอยากมีลูกในช่วงที่อายุเท่านี้ แรกๆ ที่คบกันบอกเลยว่า เราไม่เห็นว่าเขาเป็นยังไง แต่จะคุยตกลงกันไว้ก่อนว่า ห้ามเจ้าชู้ ตั้งแต่เดทแรกที่เจอกัน ถ้าเป็นคนประเภทนี้ขอไม่คบนะ เรารับไม่ได้กับคนแบบนี้ แต่ถ้าเรื่องอื่นเรารับได้ เข้าใจ
ในช่วงที่ตั้งท้อง มันมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ทำให้เราจับได้ เราเป็นคนขี้หึง แต่มีพื้นที่ให้เขา จะไม่ตามเช็ก แต่ ปะ ฉะ ลุย ได้ ไปเอาเรื่องไม่เหลือ เพราะเรามีหลักฐานรู้ทุกอย่าง
ตอนไปก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาเรื่อง แต่อยากไปให้เห็นกับตาว่ามันเป็นความจริง ตอนที่ไปจับก็ให้สามีขับรถพาไป ไม่มีซีนนางร้ายแบบในทีวี ถ้าโมโหคือนิ่ง ก็เอาโทรศัพท์ของสามีส่งข้อความไปหาผู้หญิงว่า ให้กลับมาที่ห้องเพราะรออยู่ โชคดีที่สามีให้ความร่วมมือ และเขาเกรงใจเรา
พอผู้หญิงมาเจอก็ตกใจที่เจอเรา ก็คุยกัน ส่วนใหญ่ก็ให้สามีพูด ให้เขาตัดสินใจและพูดออกมา สิ่งที่เราต้องการคือให้เขาบอกเลิกกัน อยู่ในห้องนั้นเกือบชั่วโมง ซึ่งไม่มีการใช้กำลัง นอกจากจะใช้กำลังกับคนของเรา และเราจะจัดการกับคนของเราก่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน จะโทษคนของเราก่อน
ทุกครั้งที่เกิดปัญหาเราจะอยู่กับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็มีคุยกับเขาว่าเราผิดพลาดอะไร เขาก็บอกว่าเราดีพร้อมทุกอย่าง ทั้งในความเป็นแม่ ความเป็นภรรยา ดีหมดเลย จนทำให้เราเกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วไปทำอย่างนั้นทำไม เหมือนเป็นคำถามที่ไม่เคยได้คำตอบ
ส่วนจุดที่ทำให้รู้สึกไม่ไหวเลย ก็คือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ระหว่างที่ท้องลูกสาวคนเล็ก ก็ได้มีการตกลงกับสามีแล้วว่า “ถ้าเกิดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เป้ยไปแล้วนะ” ซึ่งจริงๆ เราไม่รู้หรอกสภาพจิตใจของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว
มีอยู่คืนหนึ่งเป็นคืนที่เราตัดสินใจแล้ว คือคืนที่ลูกชายอายุ 11 ขวบ รู้เรื่อง เขาลุกมาเห็นทุกอย่างประมาณ 04.30 น. และเขากอดเราจนถึงเช้า และเราพูดกับลูกว่า “เราจะผ่านปัญหานี้ไปให้ได้ แม่จะทำให้ดีที่สุด” คืนนั้นเลยทำให้เราตัดสินใจว่าจบ
ส่วนเรื่องล่าสุดที่เกิดขึ้นที่ทำให้จบจริงๆ คือเกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว มาตอนนี้ตนเองกับสามีรู้สึกโอเคกันมา ลูกแฮปปี้ที่เห็นเราในเวอร์ชั่นนี้ ลูกรู้สึกว่า ทำไมพ่อแม่ไม่เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว เรากับสามีมีอะไรก็ปรึกษากัน
มีคลิป