Search
Close this search box.

7 ปี อาถรรพ์ จริงหรือมโน? เผยคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ

ภาพรวมเนื้อหา

เคยได้ยินเรื่อง “7 ปี อาถรรพ์” กันไหม? มันคือความเชื่อที่ว่าคู่รักจะประสบปัญหาหรือความพึงพอใจในความสัมพันธ์ลดลง ช่วงเวลาประมาณปีที่ 7 ของการคบหา งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า อัตราการหย่าร้างนั้นต่ำในช่วงปีแรก ๆ ของการแต่งงาน แต่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนสูงสุดในปีที่ 7 ก่อนจะลดลงอีกครั้ง ความเชื่อนี้จึงสื่อว่า หลังจาก 7 ปี คู่รักจะมาถึงทางแยก ความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่ความคิดนอกใจหรือความต้องการเปลี่ยนแปลง

แต่มันมีความจริงอยู่บ้างไหมกับ7 ปี อาถรรพ์นี้? หรือคู่รักควรกลัวอาการ “รักจืดจาง” ในปีที่ 5 มากกว่ากัน? บทความนี้จะพาไปฟังเสียงผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเด็นที่ถกเถียงกันมานาน และวิธีป้องกันไม่ให้ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นเลย

7 ปี อาถรรพ์ ทฤษฎีนี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายความไม่พอใจและความเบื่อหน่ายในความสัมพันธ์โดยทั่วไป มากกว่าที่จะเป็นเพียงแค่การแสวงหาคู่รักใหม่เท่านั้น

“ถ้ารู้สึกอยากจะเลิกกับแฟนในปีที่ 7 มันเป็นไปได้ว่าปัญหาอาจเริ่มต้นขึ้นเมื่อสองสามปีก่อนหน้านั้น ราว ๆ ปีที่ 5” Moraya Seeger DeGeare แชร์ นักบำบัดความสัมพันธ์คู่สมรสและครอบครัว ที่ได้รับใบรับรองวิชาชีพ และผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ประจำบริษัท Paired กล่าว

“นี่คือความแตกต่างพื้นฐานที่ควรพิจารณา ก่อนที่จะรู้สึกอยากจะเลิก สัญญาณเตือนในความสัมพันธ์ที่อาจมองข้ามไปมีอะไรบ้าง? มันเป็นเพราะอีกฝ่ายเริ่มห่างเหินทางอารมณ์ การเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ เช่น การมีลูก หรืออาจเป็นเพราะการขาดการสื่อสารเกี่ยวกับวิธีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์? ปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ที่ขัดขวางการเชื่อมโยงซึ่งเก็บไว้ข้างใน เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ไปถึงจุดแตกหัก”

7 ปี อาถรรพ์ แค่คำกล่าวอ้าง หรือมีสัญญาณเตือนจริง?

แม้ความเชื่อเรื่อง “7 ปี อาถรรพ์” อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันก็แฝงไปด้วยเค้าลางของความจริงอยู่บ้างไม่แปลกที่หลังจากใช้ชีวิตคู่กันมาสักพัก คู่รักหลายคู่มักประสบปัญหากับความใกล้ชิด ความผูกพัน หรือการสื่อสาร เนื่องจากช่วงฮันนีมูนไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอน จุดเปลี่ยนเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในความสัมพันธ์

หากหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ว่าทำไม(พฤติกรรม/สถานการณ์ ของความสัมพันธ์เปลี่ยนไป) ลองเช็คดูสัญญาณเตือนเหล่านี้ที่อาจบ่งบอกถึงอาถรรพ์ 7 ปี

  • รู้สึกหงุดหงิดรำคาญ กับพฤติกรรมของอีกฝ่ายง่ายกว่าเดิม
  • รู้สึกห่างเหิน จากกันทางอารมณ์
  • ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกัน
  • ไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
  • แทบไม่มี หรือ ไม่มีเลย ซึ่งความผูกพันทางอารมณ์
  • เริ่มมองหา ความสนใจจากคนอื่น
  • หา บุคคลที่สาม มาเป็นที่พึ่ง ทางอารมณ์แทนที่จะเป็นคนรัก
  • รู้สึก มีปัญหาเรื่องเซ็กส์ และไม่พยายาม ที่จะแก้ไขมันร่วมกัน
  • รู้สึก รำคาญแม้กระทั่ง เสียง ของอีกฝ่าย
  • รู้สึก ว่าเขา (หรือเธอ) ไม่เข้าใจ คุณ
  • หมดความอยากรู้จัก เรื่องราวในชีวิตประจำวันของอีกฝ่าย
  • หยุด ทำกิจกรรมสนุก ๆ ใหม่ ๆ ร่วมกัน
  • ไม่ได้ เป็นคนแรกที่อยากจะ แบ่งปันข่าวดี ด้วย

อาการเหล่านี้เป็นเพียงสัญญาณเตือนเบื้องต้นเท่านั้น การสื่อสารอย่างเปิดเผยและจริงใจ รวมถึงการพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้

กลัวอาการ “กระวนกระวาย เบื่อหน่าย” ในความสัมพันธ์ช่วงปีที่ 7 หรือเปล่า? ถ้ากลัว มีวิธีป้องกันความรู้สึกเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นเลยนะ!

4 วิธีป้องกัน 7 ปี อาถรรพ์

1. การตระหนักรู้ทางอารมณ์ (Emotional awareness)

สิ่งสำคัญในความสัมพันธ์คือ การรู้จักอารมณ์ตัวเอง สังเกตและเข้าใจความรู้สึกไม่พอใจหรือขุ่นเคืองก่อนที่มันจะรุนแรงขึ้น

Seeger DeGeare นักบำบัดความสัมพันธ์แนะนำว่า “ให้โฟกัสที่การทำความเข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของคุณ เวลาที่รู้สึกห่างเหิน”

“เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามกับตัวเอง เวลาที่รู้สึกห่างเหินจากคนรัก แล้วลองคุยกับเค้าตรงๆ”

แม้ว่าการคุยเรื่องไม่สบายใจอาจจะยาก แต่การเลือกที่จะซื่อสัตย์ จะช่วยให้ความสัมพันธ์แข็งแรงขึ้น การแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเพอร์เฟค จะพาไปได้ไม่ไกลนัก

2. การสำรวจตัวเอง (Self-reflection)

Seeger DeGeare นักบำบัดความสัมพันธ์ ชี้แนะเคล็ดลับสำคัญว่า “การสำรวจตัวเอง” เป็นหัวใจสำคัญ “ลองใช้เวลาไตร่ตรองดูว่าอะไรในความสัมพันธ์ของคุณที่รู้สึกไม่สมดุลหรือไม่ยั่งยืน”

“แทนที่จะมัวหวังว่าความรู้สึกเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปเอง ให้ประเมินความรู้สึกเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ การเพิกเฉยต่อปัญหาที่รู้สึกแย่ จะยิ่งทำให้มันฝังรากลึกกลายเป็นความขุ่นเคือง ซึ่งแก้ไขได้ยากในภายหลัง”

3. ความไว้วางใจ (Trust)

ความไว้ใจเป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ เมื่อไรไร้ซึ่งความไว้ใจ ความสนิทสนมทั้งทางอารมณ์และร่างกายก็เริ่มจืดจางลง ยิ่งปิดบังสิ่งต่างๆ จากคนรัก โอกาสที่ทั้งคู่จะห่างเหินกันก็ยิ่งมากขึ้น จนกลายเป็นรอยร้าวที่คันตลอดเวลา

Seeger DeGeare นักบำบัดความสัมพันธ์แนะนำว่า “ลองสำรวจตัวเองว่าอะไรขัดขวางไม่ให้คุณไว้ใจคนรักและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนย่อมเปลี่ยนแปลง ความสนิทสนมเกิดขึ้นจากการที่คุณเผยแง่ลึกของตัวเองให้คนรักรับรู้ ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ เรียนรู้จักตัวเอง หากคุณลังเลที่จะแบ่งปันตัวตนที่เปลี่ยนแปลงไป นั่นเท่ากับคุณกำลังห่างเหินกันโดยไม่รู้ตัว”

ไม่ว่าจะเป็น 5 ปี หรือ 7 ปี ความรู้สึกเหล่านี้มักค่อยๆ ปะทุในความสัมพันธ์ระยะยาว ที่ทั้งคู่ปล่อยปละละเลยจนห่างเหินกัน สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์อาจไม่ใช่สิ่งที่พูด แต่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเอ่ยถึงกันต่างหาก

4. ความซื่อสัตย์อย่างเปิดเผย (Open honesty)

Seeger DeGeare เตือนสติว่า “อย่าลืมว่าคนรักไม่สามารถอ่านใจเราได้ การคิดว่าพวกเขาควรจะรู้ว่าต้องทำอะไร ถ้าพวกเขารักคุณจริง ๆ เป็นความคิดที่ควรละทิ้งไป”

“แต่ละคนถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนก็ส่งผลต่อความคิดว่าความสัมพันธ์แบบปกติควรเป็นอย่างไร ดังนั้น จำเป็นต้องสื่อสาร บอกให้ชัดเจนว่าต้องการขอบเขตแบบไหน ขอในสิ่งที่ต้องการ และรับฟังสิ่งที่คนรักของร้องขอ”

“ความสัมพันธ์ย่อมต้องมีการประนีประนอม แต่ถ้าไม่สื่อสารความต้องการที่แท้จริง สุดท้ายอาจสร้างความสัมพันธ์ที่จำตัวเองไม่ได้ขึ้นมา ความรู้สึกอยากหนีออกไป จะยิ่งทวีความรุนแรง ถ้ามองไปรอบ ๆ แล้วไม่เห็นตัวเองอยู่ในความสัมพันธ์นี้อีกต่อไป”

ความสัมพันธ์ย่อมไม่ราบรื่นตลอดเวลา แทนที่จะยอมจำนนต่อ “อาถรรพ์” ที่ดูเหมือนหลีกเลี่ยงไม่ได้ หันมาทุ่มเทดูแลความสัมพันธ์ของคุณทุกวันดีกว่า แม้จะรู้สึกเหมือนเป็นงานหนัก แต่การลงมือ “ปฏิบัติ” เรื่องของความรัก กลับกลายเป็นงานที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดในโลก

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.paired.com/articles/7-year-itch (Accessed on: 8 May 2024)

แชร์ไปยัง

บทความแนะนำ

ติดตามพวกเราได้ที่
ME AND YOU ENTERTAINMENT CO., LTD.
เลขที่ 111 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. 10240
แจ้งปัญหา/ฝากข่าว [email protected]
ภาพรวมเนื้อหา